top of page
Writer's picturePitchaya Yindeepit

กว่าจะมาเป็น Yindee Travellers Lodge โฮสเทลในเมืองน่าน (1)


(เพื่อสุนทรีย์ภาพ กรุณาเปิดเพลงฟังจากยูทูปไปด้วย)


คิดถึง : เมืองน่าน 50 นาที คือระยะเวลาในการบินจากกรุงเทพ ไปยังสนามบินน่านนคร แต่ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนยาวนานเหลือเกิน....

อย่างที่ทุกคนทราบว่าโรงแรมแทบจะทุกแห่งในเมืองไทย รวมถึงในเมืองน่านด้วย ต้องหยุดให้บริการจากผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้เราเหมือนตกงานกลายๆ เลยได้มีเวลามานั่งเขียนบล็อคนี้ขึ้น 555 (หัวเราะทั้งน้ำตา) ตัวผมเองตอนนี้ก็ติดอยู่ที่สิงคโปร์ ยังไม่สามารถกลับไทยได้ ถึงกลับไทยได้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้าน่านได้มั้ย วันนี้ เราจึงอยากมาแนะนำตัวกับทุกคนอีกครั้ง ทั้งที่เคยเจอกันแล้ว ยังไม่ได้เจอกัน หรือ ที่กำลังจะได้เจอกันอีกในอนาคตที่ Yindee Travellers Lodge ของเรา

ผมเป็นใคร : สรุปสั้นๆคือ เป็นเขยเมืองน่านครับ พอจะไปขอลูกสาวเค้าเลยต้องเดินทางมาบ้านเค้าซะหน่อย ทำให้มีโอกาสได้มาเห็นศักยภาพของเมืองน่าน และที่ตรงนี้ที่เกิดเป็นโฮสเทลของเราขึ้น แล้วที่ตรงนี้เคยเป็นอะไร : ตรงนี้ก่อนที่จะมาเป็นตึกแถวหกห้องนี้ เคยเป็นบ้านคุณป้าของภรรยาผมเอง พอเค้ามีความคิดที่จะย้ายออกไปนอกเมือง และจะสร้างตึกแถวขึ้นมา ทำให้เราได้ไอเดียที่จะทำโฮสเทลที่นี่ขึ้นมา ทำไมต้องทำโฮสเทลอ่ะ : หลายท่านอาจจะไม่รู้ แต่ที่เมืองน่าน หรือ ตึกในเมืองน่าน ราคาค่อนข้างสูงครับ ฮาาาาา ทำให้เราสามารถลงเงินมาทำได้แค่ตึกเดียว ที่นี่เราก็เลยมาลองคิดดูว่า เอ..จะทำอย่างไรให้พื้นที่ที่น้อยๆเนี่ย มันเกิดประโยชน์สูงสุด ก็เลยเกิดไอเดียการเป็นโฮสเทล 4 ห้อง 15 เตียง นอนได้สูงสุด 20 คนขึ้นมา อะไรคือโฮสเทล : คำถามนี้ยอดฮิต หลายๆคนอาจจะคิดว่า โฮสเทลคือที่พักที่มีเตียงสองชั้น แล้วก็นอนรวมๆกันกับแขกท่านอื่น / สำหรับผมแล้ว ถูกในส่วนหนึ่ง ก็คือ อาจจะมีลักษณะที่พักเป็นเตียงสองชั้นก็ได้ เตียงเดี่ยวแยกเป็นห้องไม่ต้องนอนรวมกับใครเลยก็ได้ หรือ จะเป็นห้องเดี่ยวทั้งหมดเลยก็ยังได้

แต่สิ่งที่น่าจะแสดงความเป็นโฮสเทลได้ชัดเจนที่สุดสำหรับผมก็คือ


1. พื้นที่ส่วนกลาง หรือ Common Area ครับ คือให้โฮสเทลเนี่ย จะต้องมีพื้นที่ๆให้แขกได้มามีปฏิสัมพันธ์กัน ทั้งจากแขก-แขก หรือ แขก-โฮส หรือพนักงานต้อนรับ นั่นเอง อย่างตัวผมเอง ก่อนหน้าจะมาทำที่นี่ ก็เคยได้ไปฝึกงานกับโฮสเทลในกรุงเทพ (ขออุบชื่อไว้เขียนตอนต่อไปดีกว่า) ที่เป็นเหมือนโรงเรียนของผมเองเลย เพราะผมไม่ได้เรียนการโรงแรมมาโดยตรง

ที่นั่นจะมีโต๊ะทานข้าวตัวใหญ่ๆ อยู่กลางโฮสเทลเลย ตอนเช้า แขกก็จะลงมานั่งทานอาหารเช้ากัน ตอนบ่ายแขกที่มาเช็คอินก็จะลงมานั่งเตรียมตัวออกไปเที่ยวกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเวลาที่วุ่นวายที่สุด คือ แขกก็จะถามว่า ถ้าไปที่นี่จะไปยังไง แล้วแถวนี้มีอะไรทานอร่อยๆบ้าง หรือ เอ....ถ้าวันพรุ่งนี้จะต้องไปขึ้นเครื่องบินตอนนั้น จะต้องออกกี่โมงนะ สิ่งที่ผมได้เห็นมาคือ บางทีเราไม่ต้อง แม้แต่จะอ้าปากตอบด้วยซ้ำ ก็จะมีแขกคนอื่นๆที่เคยไปมา จิ้มมาบอกอีกคนเลยว่า "เฮ้ย เนี่ยไอว่า ยูไปสมุยอ่ะ ไปทางนี้ๆๆ ดีนะ" หรือ "ยู ไอไปทานข้าวร้านนี้มา ลองดูรูปสิ โห โคตรอร่อยเลย" อะไรอย่างนี้กันขึ้น อย่างที่ Yindee ก็จะมีทั้งโต๊ะอาหารตรงกลางบ้าน หรือ ดาดฟ้าชั้น 4 ที่ชิลสุดๆไปเลย

2. Activities : อันนี้บางที่อาจจะไม่มี อย่างที่ยินดีเนี่ย ก็จะไม่ค่อยมี (แต่ในอนาคต เราอยากให้มีมากขึ้นๆนะ เพราะว่าเราเชื่อว่าต่อไป น่านจะมีคนเข้ามาเที่ยวอีกเยอะเลย) แต่อย่างโฮสเทลของเพื่อนผม ก็เคยมีการจัดปาร์ตี้ บาร์บีคิวกันบนดาดฟ้า หรือ ทัวร์ข้าวสารกันทั้งคืน อะไรอย่างนี้ขึ้นมาซึ่งไอเดียมันอาจะเปลี่ยนเป็น ทัวร์จักรยานรอบเมืองน่าน หรือ ชมวิวพระอาทิตย์ตกบนเขาน้อย แทนก็ได้นะ

ซึ่งสองข้อข้างบนนี้เนี่ย มันจะทำให้เกิดอีกสิ่งหนึ่งขึ้นมา ก็คือ บรรยากาศ หรือ Vibe ครับ ซึ่งตัวผมเองเนี่ย ชอบบรรยากาศแบบนี้มาก ทำให้หลายๆครั้งที่ได้มีโอกาสออกไปเที่ยวทั้งในไทยหรือต่างประเทศก็จะเลือกพักในโฮสเทลแทนโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์ โดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยด้านราคาอย่างเดียว วันนี้รู้สึกยาวไปแล้ว ขอพักไว้ก่อน แล้วจะมาเขียนต่อวันพรุ่งนี้นะครับ ปล.อยากฝากรูปภาพแรกๆของ Yindee Travellers Lodge ไว้ให้ดูเล่นๆ ตั้งแต่ช่วงการก่อสร้างเลยแล้วกัน

ปล.2 ถ้าใครอ่านแล้วอยากจอง หรือ อยากรออ่านต่อ ก็กดไลค์ facebook ของเราไว้ได้เลยนะครับ https://www.facebook.com/Yindeetravellerslodge #yindeetravellerslodge



122 views0 comments

Commenti


bottom of page